23 ม.ค.58
ฟ้ามืดแล้วตอนที่ผู้เยี่ยมชมจากฟิลิปปินส์ 2 คน และอินโดนีเซีย 1 คน เดินทางฝ่าการจราจลหนาแน่นของกรุงเทพฯในวันศุกร์มาถึงพิพิธภัณฑ์แรงงานไทย
3 สาวอาเซียนกลุ่มนี้ นำพามาโดยคนคุ้นเคย ครูตู่ -บังอร ธรรมสอน สาวเชียงรายผู้ไปจัดตั้งสมาคมรวมไทยในฮ่องกง ทริปนี้มีล่ามช่วย 2 คน ตู่ กับ เล็ก ที่มากับลูกสาว
เดินดูห้องแสดงแต่ละห้องกันอย่างละเอียดในเวลาที่จำกัดแลกเปลี่ยนกันสนุกด้วยภาษาอังกฤษแบบอาเซียนหลายสำเนียง แต่เชื่อมความเข้าใจเนื้อหาได้ลึกซึ้งด้วยเหตุว่าวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน บางคนว่านี่บ้านฉันก็มี แล้วนั่นก็เหมือนกัน ทั้งวิถีชีวิตของคนงาน การถูกเอารัดเอาเปรียบ และการลุกขึ้นต่อสู้เรื่องสิทธิแรงงาน
ที่ประหลาดมากคือ ทุกคนบอกว่าขนลุก (ทำท่ายกแขนลูบ) เมื่อเริ่มเล่าเรื่อง จิตร ภูมิศักดิ์ ให้ฟัง ซักกันไปมาจึงเข้าใจ ว่าทุกชาติภาษาล้วนมีวีรบุรุษ มีวีรชนที่เสียสละต่อสู้เพื่อนคนทุกข์ยากทั้งนั้น
Kasiwen จาก ATUI – Indonesia บอกว่า ชอบที่พิพิธภัณฑ์สร้างโดยความร่วมมือของคนงาน ทำให้เป็นอิสระจากการครอบงำ ได้เรียนรู้หลายอย่าง ซึ่งเพื่อนๆก็ต่างหนุนกันว่าให้ลองไปทำพิพิธภัณฑ์แรงงานที่อินโดนีเซียบ้าง เธอไม่ได้ตอบรับ แต่สังเกตว่าครุ่นคิด ดูแววตาว่าสนใจเหมือนกัน
Sonia จาก Asia Pacific Mission for Migrants สาวตัวกระทัดรัดแต่เสียงดังจากฟิลิปปินส์ บอกว่าชอบที่พิพิธภัณฑ์แรงงานไทยแสดงเรื่องราวของแรงงานทุกกลุ่ม ทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติ ทั้งแรงงานในระบบและนอกระบบ ทั้งหญิง-ชายและเด็กๆ และยังได้เห็นความสมานฉันท์ (solidarity)ของแรงงานหลากหลายกลุ่ม
Buhay เป็น NGOs ฟิลิปปินส์ที่ไปทำงานในฮ่องกง เธอบอกว่าชอบการจัดแสดงและเนื้อหาทั้งหมด ทุกห้อง แต่ที่รู้แล้วไม่ชอบคือยุคสมัยของการใช้แรงงานไพร่-ทาสในสังคมไทย แรงงานไม่มีอิสระ ทำงานก็ไม่ได้ค่าจ้าง
กว่าจะได้นั่งโต๊ะอาหารเย็นก็ล่วงเลยไปกว่าชั่วโมงทั้งที่คอยเร่งรัดกันตลอดเวลา พิพิธภัณฑ์แรงงานไทยเนื้อหาแน่นจริงๆ (หลายคนพูดเหมือนกันเมื่อเห็นจากข้างนอกที่คิดว่าข้างในคงเล็กๆไม่มีอะไร)
แม้เป็นช่วงเวลาของการกิน แต่ก็เป็นช่วงเวลาของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้วย ทั้งในเรื่องอาหารและวิธีการกิน จึงรู้ว่า ในชาติอาเซียน แม้มีหลายอย่างที่ต่างกัน แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่เหมือนๆกัน
ไม่เพียงวัฒนธรรมในการกินเท่านั้น หากยังรวมไปถึงวัฒนธรรมด้านแรงงานด้วย โดยเฉพาะการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม