2 Japanese Visitors

เที่ยงกว่าๆ วันที่ 31 มกรา เป็นอีกครั้งที่หนังสือคู่มือท่องเที่ยวของญี่ปุ่นนำพาชาวซามูไรให้มารู้จักเรื่องราวของแรงงานในแดนสยามเมืองยิ้มมากขึ้น คราวนี้เป็น 2 หนุ่มอาชีพเอ็นจิเนียร์ แต่ลืมถามว่าทำงานทีใหน! เข้าใจว่าจะเป็นในเมืองไทยนี่แหละ เพราะเมื่อขอให้เปรียบเทียบคนงานไทยกับคนงานญี่ปุ่นหลังจากได้เดินดูพิพิธภัณฑ์จนใกล้จะจบแล้ว เขาบอกว่าคนงานญี่ปุ่นทำงานหนักเอาจริงเอาจัง และได้เงินค่าจ้างค่อนข้างสูง ส่วนคนงานไทย เขานึกหาคำพูดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วทำท่าเอามือขวาแบคว่ำระดับเอวพร้อมกับปาดไปมา ขวา-ซ้าย…เลยไม่รู้ว่าเขาบอกอะไร แล้วก็ยังบอกว่าที่ญี่ปุ่นก็มีสหภาพแรงงาน แต่ในความคิดของเขา คิดว่าสหภาพแรงงานในญี่ปุ่นไม่เข้มแข็งนัก ทั้ง 2 คนใช้เวลาไปราวครึ่งชั่วโมง ก็จากไปหลังแสดงความเห็นในสมุดเยี่ยมว่า interested และอีกคน interesting

สงครามโลกที่สะเทือนใจ

นักท่องเที่ยวสาวจากญี่ปุ่นถึงกับหลั่งน้ำตา เมื่อถูกถามว่าประทับใจส่วนใดในการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์แรงงานไทยมากที่สุด เธอเล่าให้ฟังด้วยเสียงเบาแผ่วปนสะอื้นว่า เป็นเรื่องราวกองทัพญี่ปุ่นกับการสร้างทางรถไฟสายมรณะที่ห้องแสดงสงครามโลกครั้งที่ 2 เธอบอกว่าคุณแม่ของเธอมักเล่าให้ฟังเสมอถึงเรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กองทัพญี่ปุ่นบุกตะลุยรบไปทั่วโลก ซึ่งขณะนั้น คุณแม่ของเธอเป็นคนงานเย็บร่มชูชีพให้กับกองทัพญี่ปุ่น เสียงเธอกระท่อนกระแท่นมากขึ้นจากแรงสะอื้น จนไม่กล้าถามต่อว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไรกันแน่ เธอจากไปแล้ว แต่คนที่พิพิธภัณฑ์ยังคิดกันต่อ เดาๆเอาว่าก็คงเป็นเพราะสงครามนั่นแหละ ไม่ว่าที่ใด ล้วนต้องมีความตาย ความสูญเสียพลัดพราก จนยากที่ใครที่ประสบพบเจอนั้นยากที่จะลืมเลือน แม้ผ่านช่วงเวลายาวนานสักเพียงใดก็ตาม